ไพ่ ออนไลน์ อัปเดตล่าสุดปี 2024 และ ปลอดภัยไร้กังวล

เผ่าภูมิ ขึ้นแม่สาย มอบสัญญาเช่าที่ดิน ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ พลิกชีวิตประชาชนอีก 500 สัญญา
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ขึ้นแม่สาย มอบสัญญาเช่าที่ดิน ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ พลิกชีวิตประชาชนอีก 500 สัญญา กว่า 72 ไร่

วันที่ 4 ส.ค.67 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง แถลงข่าวในโครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์" สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ว่า

โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ "สัญญาเช่าที่ดิน Admauto99 พลิกชีวิตประชาชน" ของกระทรวงการคลัง โดยการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ประชาชนในวันนี้ (4 สิงหาคม 2567) เป็นการมอบสัญญาเช่าเพื่ออยู่อาศัยทั้งสิ้น รวม 500 ราย 500 สัญญา เนื้อที่รวม 72 ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชร.1154 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในอัตราค่าเช่าต่ำ เพื่อประชาชน

กระทรวงการคลังมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย ช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย มีความเป็นอยู่ที่ดี มีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภค และระบบสาธารณูปการ รวมถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ สินเชื่อจากสถาบันการเงิน สร้างความเข้มแข็งด้านสังคม ลดความเลื่อมล้ำและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน

การมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานมอบสัญญาจังหวัดที่ 4 และจะดำเนินไปจนครบทั้ง 9 จังหวัดในปีนี้ โดยจะเดินหน้ามอบสัญญาในจังหวัดที่เหลือ ได้แก่ นครสวรรค์ กาฬสินธุ์ ปัตตานี ราชบุรี และสุราษฎร์ธานี ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน

ลูกเป็นห่วงแม่ ป่วยติดเตียง กลัวถูกยุงกัด จุดยาไว้ปลายเท้า ไฟไหม้ดับสลด
สุดสลด ลูกชายเป็นห่วงแม่ ป่วยติดเตียง กลัวถูกยุงกัด จุดยากันยุงไว้ให้ปลายเท้า ไฟลุกไหม้ที่นอน แม่สำลักควันเสียชีวิต เผยพยายามช่วยแล้วแต่ไม่ทัน

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 3 ส.ค.2567 ร.ต.ท.วัฒนพงศ์ วงษ์หอมหวน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านคลองสวน รับแจ้งเหตุมีหญิงสูงอายุสำลักควันเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ม.8 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชาญชัย ฤทธิฦาชัย ผกก.สภ.บ้านคลองสวน, พ.ต.ท.งาน กันทวี รอง.ผกก.สส.สภ.บ้านคลองสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง


สุดสลด ลูกชายเป็นห่วงแม่ ป่วยติดเตียง กลัวถูกยุงกัด จุดยากันยุงไว้ให้ปลายเท้า ไฟลุกไหม้ที่นอน แม่สำลักควันเสียชีวิต เผยพยายามช่วยแล้วแต่ไม่ทัน

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างหน้าห้องน้ำพบเศษที่นอน หมอน และเสื้อผ้าถูกไฟไหม้จนดำ บริเวณข้างตู้เสื้อผ้าพบกล่องยากันยุงถูกไฟไหม้เสียหายครึ่งกล่อง Admauto99

บริเวณกลางบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ นางคำเบ้า (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่กลางบ้าน สวมเสื้อกล้ามคอกระเช้าสีเขียว สวมผ้าถุงสีน้ำเงิน ตรวจสอบตามร่ายกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่นำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์

จากการสอบถาม นายปัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นพนักงานจัดเรียงสินค้าอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านวงเวียนใหญ่ บ้านหลังดังกล่าวตนพักอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน ซึ่งโดยปกติแม่ป่วยเป็นหลายโรคและเพิ่งจะมาป่วยติดเตียงได้ประมาณ 1 เดือน

นายปัญญา กล่าวต่อว่า ซึ่งตนจะให้แม่นอนบนที่นอนแบบฟูกอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนตนจะนอนอยู่บนชั้นที่ 2 เพราะแม่ลุกเดินเหินไม่ไหว ก่อนที่จะมาเกิดเหตุสลดเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ประมาณเที่ยงคืน ขณะที่ตนกลับมาจากที่ทำงานเห็นแม่นอนอยู่บนที่นอนและกลัวจะถูกยุงกัด

นายปัญญา กล่าวอีกว่า โดยปกติตนจะเปิดประตูหลังบ้านทิ้งไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเทพร้อมติดผ้าม่านกันยุงไว้แต่ยังมียุงบินเข้ามาในบ้านได้ จึงได้จุดยากันยุงไว้ปลายเท้าที่นอนของแม่ และจุดอยู่อย่างนี้เป็นประจำทุกวัน

นายปัญญา กล่าวด้วยว่า กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ขณะที่ตนนอนอยู่ในห้องนอนชั้นที่ 2 ได้กลิ่นคล้ายควันไฟลอยเข้ามาในห้อง จึงรีบลุกออกมาดูพบว่าชั้นล่างที่แม่นอนอยู่มีกลุ่มควันไฟลอยหนาแน่จนเต็มบ้าน

นายปัญญา กล่าวว่า ตนจึงรีบวิ่งลงไปดูพบควันพุ่งออกมาจากที่นอนและหมอนที่แม่นอน ก่อนจะเห็นแม่นอนหมดสติอยู่ข้างที่นอน จึงรีบดึงตัวแม่เข้าไปในห้องน้ำเพื่อให้หายใจได้สะดวกพร้อมพยายามปั๊มหัวใจให้แม่ฟื้น ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาลให้รีบเดินทางมาช่วยแต่ไม่ทันการณ์ แม่ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น พร้อมประสานญาติให้เดินทางไปติดต่อขอรับศพมาดำเนินการตามประเพณีพร้อมเชิญลูกชายผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจต่อไป

ศิริกัญญา มองลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต วันแรก ประสบผลสำเร็จ ห่วงแจกไม่ทันปีนี้
"ศิริกัญญา" มอง ลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต วันแรก ประสบความสำเร็จ แต่ห่วงกลัวหลุดได้รับเงินปีหน้า แนะ รัฐจัดการความหวังของประชาชนให้ได้ ที่ต้องรอถึง 5 เดือน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีการเปิดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต มีความเป็นห่วงอะไรหลังจากนี้หรือไม่ ว่า การลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ถือว่าประสบความสำเร็จ ถึงแม้จะมีขรุขระและช้าเล็กน้อย เนื่องจากคนเข้าไปลงทะเบียนพร้อมกัน แต่ในภาพรวมถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี มีคนมาลงทะเบียนค่อนข้างมาก Admauto99


แต่จุดข้อสังเกตหนึ่ง คือ เป็นการลงทะเบียนที่ตัวเนื้อหาของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอมติเลย จึงไม่แน่ใจว่าสุดท้ายจะมีปัญหาในเชิงข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ เพราะมติครม.ครั้งสุดท้ายที่มีการเห็นชอบในหลักการตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งตอนนั้นยังพูดถึงแหล่งที่มาของเงินว่าจะมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) อยู่เลย ดังนั้น คงต้องรอดูกันต่อไป

"นี่เป็นแค่ก้าวแรก โดยเงินที่จะถึงมือประชาชนยังต้องรอไปอีกอย่างน้อย 5 เดือน รัฐบาลก็คงจะต้องจัดการกับความคาดหวังของประชาชน ที่วันนี้ลงทะเบียนไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเงินจะมาเมื่อไหร่ ในช่วงระหว่างนี้คงจะต้องมีการตอบคำถามกับประชาชนว่า สรุปแล้วเงินจะได้เมื่อไหร่ และจะได้เงินตามที่รัฐบาลได้มาให้ความหวังเขาหรือไม่ เพราะการรอคอยค่อนข้างที่จะยาวนาน

ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ระบบชำระเงิน ไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้ แล้วจะต้องหลุดไปถึงปีหน้า ความคาดหวังของประชาชนก็จะยิ่งสูงขึ้น และอาจเกิดมีความผิดหวังขึ้นมาได้ ดังนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจ และให้ความชัดเจนในรายละเอียดในเรื่องต่างๆ ด้วย" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

เมื่อถามว่าคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุคิดว่าจะกระทบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าอาจไม่ถึงขั้นทำให้โครงการนี้ต้องหยุดลง แต่อาจจะมีสะดุดไปบ้าง ถ้าหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เช่นมีการปรับเปลี่ยนครม. หรืออะไรต่างๆ แต่ท้ายที่สุดก็คงจะกลับมาเดินหน้าต่อได้

พชร์ อานนท์ ชี้แจงด่วน ถูกถอดจากรายการ 'ทัวร์มาลง' ไม่เกี่ยวกับเรื่อง "รักลุงตู่ หรือ เงินดิจิตอล" โมโนแค่อยากเปลี่ยนรูปแบบ

งานเข้าทันที เมื่อพิธีกร และผู้กำกับดัง พชร์ อานนท์ ได้โพสต์ภาพตนเอง พร้อมกับเขียนแคปชั่น บ๊ายบาย ทัวร์มาลง เพราะว่าแฟนๆ หลายคน เดากันไปว่าสาเหตุที่ผู้กำกับดังถูกปลดออกจากรายการ เพราะพูดแซะเรื่องการเมืองแน่นอน

ร้อนถึงผู้กำกับดัง ต้องมาโพสต์คลิปชี้แจงถึงสาเหตุที่ตนเองออกจากรายการทัวร์มาลง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่เพราะรายการเขามีการปรับรูปแบบรายการว่า Admauto99

"เมื่อวานที่บ๊ายบายรายการทัวร์มาลง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย มันเป็นธรรมเนียมอยู่แล้ว เพราะครั้งก่อนที่พี่ออกจากรายการ บันเทิง 108 พี่ก็ลาแฟนคลับอย่างนี้ ก็ให้มาเจอกันในไอจี เฟซบุ๊ก คุยกันได้ ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเหมือนที่หลายคนคิด แล้วอีกอย่าง ทางโมโน เขาอยากปรับให้รายการทัวร์มาลงสนุกมากขึ้น เป็นการอ่านข่าวมากขึ้น เขาเลยปรับพิธีกรออก


พี่ก็บ๊ายบายเป็นธรรมเนียม เพราะว่าพี่มีเอฟซี ไม่มีเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ไม่เกี่ยวกับ คิดถึงลุงตู่ ไม่เกี่ยวกับเงินดิจิตอล อย่างที่หลายๆคนคิด ที่ออกเพราะว่าทางโมโนเขาอย่ากปรับเปลี่ยนรายการให้สนุกมากขึ้น

กราบขอโทษด้วย ถ้าไปทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจ ที่ออกด้วยว่ามีการปรับเปลี่ยน ตอนนี้พี่เองก็ยังทำหนังให้กับโมโน 2 เรื่องก็คือ วัยเป้ง 2 และ โคกระโหลก ขอโทษทางโมโนด้วย ที่ทำให้คนเขาใจผิดว่าไล่พี่พชร์ออกเพราะการเมือง แค่รายการมีการปรับเปลี่ยนให้สนุกมากขึ้น

พร้อมเขียนแคปชั่นว่า รบกวนบอกต่อๆกันด้วยนะครับเพราะหลายคนคิดว่าออกเพราะเรื่องการเมือง ต้องกราบขอโทษทางโมโนด้วยที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดนะครับ รักทุกคนนะครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงกันจบนะ

 ADMAUTO99 มีหลายร้อยเหตุผลที่คู่รักจะเลิกกัน แต่สำหรับสาวคนหนึ่ง "การกัดอกไก่ 1 คำ" ได้กลายมาเป็นฟางเส้นสุดท้ายของการเลิกราในแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเรื่องราวที่เธอนำมาบอกเล่าผ่านชุมชนออนไลน์เมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ทำเอาชาวเน็ตถึงกับอึ้งหนัก และแสดงความยินดีที่เธอหลุดพ้นจากความสัมพันธ์นั้นมาได้ โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เว็บไซต์ UDN รายงานว่า หญิงรายดังกล่าวได้โพสต์ถึงเรื่องราวของตัวเองผ่าน Dcard ในหัวข้อ "ฉันเพิ่งเลิกกับแฟน ADMAUTO99 หนุ่มเพราะอกไก่ชิ้นเดียว" เล่าว่า เธอพบแฟนหนุ่มรายนี้ผ่านแอปฯ หาคู่ เนื่องจากเธอกับเขาชอบออกกำลังกายเหมือนกันเลยเข้ากันได้ดี ทั้งคู่มักจะไปวิ่งและออกกำลังกายด้วยกันเสมอ ซึ่งแรก ๆ ทุกอย่างก็คล้ายจะดูดี แต่เมื่อได้อยู่กับแฟนหนุ่มนานวันเข้า นิสัยที่แท้จริงของเขาก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมาให้เห็น กลายเป็นว่าแฟนหนุ่มมีนิสัยที่ไม่ค่อยดีและยังควบคุมอารมณ์ได้แย่มาก หลาย ๆ เหตุการณ์ที่พบเจอ ทำให้เธอเริ่มจะสงสัยว่าควรเลิกกับเขาดีไหม เธอยกตัวอย่างเช่นตอนที่พวกเธอไปออกกำลังกายด้วยกันในฟิตเนส แฟนหนุ่มมักจะชอบทิ้งดัมเบลใส่พื้นแรง ๆ ทุกครั้งที่ออกกำลังกายจบเซต เสียงของมันดังมากจนไม่เพียงแค่ทำให้เธอกลัว แต่ยังดึงดูดความสนใจของทุกคน เดิมเธอคิดว่าเขาคงหมดแรงหลังออกกำลังกาย แต่แล้วเธอก็ทนไม่ไหว เอ่ยปากขอให้เขาวางดัมเบลอย่างอ่อนโยนหน่อย แต่แฟนหนุ่มกลับบอกว่า เขาคิดว่าทำแบบนี้แล้วดูเท่ดี จึงไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้แฟนหนุ่มยังชอบดูถูกและขาดความเคารพต่อผู้หญิง ไม่ว่าจะตอนอยู่ในฟิตเนสหรืออยู่ข้างนอก หากเขาเห็นผู้หญิงอ้วนก็จะหัวเราะใส่ แล้วหันมาบอกเธอไม่ให้เป็นแบบนั้น แต่หากเขาเห็นผู้หญิงที่ดูเร่าร้อนหุ่นดี เขาก็เอาเธอไปเปรียบเทียบ บอกว่าเธอยังออกกำลังกายไม่พอเลยเป็นแบบนั้นไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเครียดมากจริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็คือเรื่องอกไก่ โดยครั้งหนึ่งหลังจากที่เธอกับเขาออกกำลังกายเสร็จ ก็ออกไปซื้ออกไก่ที่ซูเปอร์ด้วยกันตามปกติ เธอซื้ออกไก่รสดั้งเดิม ส่วนเขาซื้อรสอื่น ตอนนั้นเธออยากลองชิมรสชาติอื่นดูบ้างเลยขอชิมอกไก่ของเขา 1 คำ แต่ใครจะคิดว่าหลังจากให้เธอกัดแล้ว แฟนหนุ่มจะบอกทันทีว่าให้เธอจ่ายเขามา 10 หยวน (ราว 49 บาท) ตอนแรกเธอยังคิดว่าเขาล้อเลย แต่สีหน้าของแฟนหนุ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อย เขายืนกรานว่าตัวเองไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้คนอื่นมาเอาเปรียบ และยังพูดโวยวายเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายถึงขั้นยืนด่าเธอด้วยความโมโหกลางถนน หญิงสาวยอมรับว่าเธอทนกับแฟนหนุ่มมานานแล้ว และจะไม่ทนอีกต่อไป จึงถือโอกาสนี้ทะเลาะกับเขาครั้งใหญ่และขอเลิก เธออธิบายว่าโดยปกติเธอกับแฟนหนุ่มต่างก็โอเคมาก ตอนที่กินของอีกฝ่าย แต่หากเขาอารมณ์เสีย ทุกอย่างที่เคยโอเคจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาทันที และนี่ก็คือสิ่งที่ทำให้เธอทิ้งเขาไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอเลิกกับแฟนหนุ่มมาได้ 2 เดือนแล้ว แม้จะรู้สึกดีแต่ก็ยังรู้สึกว่างเปล่า เธอรู้สึกว่าตัวเองพยายามอย่างหนัก ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่มาโดยตลอด แต่ทำไมต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้ด้วย และอยากรู้ว่าจะมีทางไหนที่จะเจอกับคนปกติที่ชอบออกกำลังกาย

ไวรัล หมาจรจัดข้างถนนในวันนั้น สู่หัวหน้าแก๊งเจ้าถิ่นในวันนี้ เผยเหตุผลวันที่ตัดสินพามาเลี้ยง
ไวรัล หมาจรจัดข้างถนนในวันนั้น สู่หัวหน้าแก๊งเจ้าถิ่นในวันนี้ เจ้าของเล่าเหตุผลวันที่ตัดสินใจอุ้มกลับมาเลี้ยงที่บ้าน

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ jakktung โพสต์คลิปการเปลี่ยนแปลงของหมาจรจัดข้างถนนตัวหนึ่ง ที่ทุกวันนี้มีบ้านอยู่ กลายเป็นเจ้าของถิ่น ยืนห้าวอยู่บนมอเตอร์ไซค์ พร้อมระบุแคปชั่นว่า "จากหมาจรจัดข้างถนน เกือบถูกสิบล้อชน สู่หมาอาเสี่ยเจ้าของถิ่น" จนมีชาวเน็ตมาคอมเมนต์แสดงความชื่นชมจำนวนมาก


ล่าสุดวันที่ 31 ก.ค. 67 คุณเก่ง เจ้าของโพสต์ เปิดเผยกับ 'ข่าวสดออนไลน์' ว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ตนเลิกงานและกำลังเดินทางกลับบ้าน โดยขับรถผ่านเส้นทางถนนขอนแก่นจะกลับไปยัง จ.อุดรธานี เห็นหมาจรจัดตัวนี้เดินอยู่ข้างถนนตัวเดียว ซึ่งถนนมีแต่รถสิบล้อวิ่งผ่าน ด้วยความเป็นห่วงกลัวจะโดนรถเฉี่ยวชน ตนเลยจอดแวะข้างทาง และลองเรียกดูว่าจะเดินมาหรือเปล่า

ปรากฏว่าเรียกแล้วน้องก็วิ่งเข้ามาหา เข้ามาเล่นด้วยเหมือนหิวข้าว ตนเลยเอาของกินในรถให้ เมื่อมองดูรอบๆแล้ว แถวนั้นไม่มีสถานที่พักอาศัยหรือบ้านคนอยู่เลย มีแต่ป่า เลยตัดสินใจอุ้มหมาขึ้นรถกลับบ้าน เอามาเลี้ยงที่บ้าน เลยตั้งชื่อให้ว่า "ลีโอ"

ที่บ้านของตนนั้นเลี้ยงหมาอยู่แล้วหลายตัว ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์เล็ก ลีโอเป็น 1 ใน 4 ตัวที่เป็นหมาจรจัดที่ตนรับมาเลี้ยง ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นพันธุ์อะไร แต่พอโตมาก็เริ่มมีความเหมือนบางแก้ว ยิ่งโตยิ่งตัวใหญ่กว่าหมาตัวอื่นในบ้าน เลยเรียกกันว่า "อาเสี่ยโอ" น้องมีพฤติกรรมค่อนข้างซน ชอบปีนขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ แถมยังตัวใหญ่กว่าเพื่อน เลยกลายเป็นเหมือนหัวหน้าแก๊งหมา

ตนรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือหมาจรจัด การช่วยเหลือก็เหมือนเป็นการส่งต่อการดำรงชีวิตอีก 1 ชีวิตสัตว์ คิดว่ามันไม่ได้เป็นภาระอะไรมาก ตนเลี้ยงได้อยู่แล้ว เพราะที่บ้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เลี้ยงหมาอยู่แล้ว ข้าวหมาเขาก็กินด้วยกันหมด ไม่ได้ดื้อซนอะไรมาก พอเริ่มโตขึ้นก็เริ่มนิ่ง


ตนเจอคลิปเก่าในโทรศัพท์ จึงมาโพสต์ลงติ๊กต็อกไปเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่าน พอตื่นขึ้นมาอีกวันคลิปก็กลายเป็นไวรัลไปแล้ว ต้องขอบคุณที่ทุกคนที่ให้ความสนใจ การเก็บหมาจรจัดเอามาเลี้ยง จนมีหลายคนก็มาคอมเมนต์ชมน้องลีโอว่า โตมาหล่อเลย

ทั้งนี้ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การรับเลี้ยงหมาจรจัดนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน แล้วแต่กำลังเงิน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย หากบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ก็อาจมีผลเรื่องของเสียงดัง ในกรณีที่บ้านอยู่แยกเป็นบ้านเดี่ยวอาจจะเหมาะสมกว่า บางคนเขาอาจจะช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง ตนนั้นสามารถที่จะพอที่จะรับช่วยเหลือตรงนี้ได้ ก็เลยคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา ช่วยได้ก็ช่วย ถือว่าช่วยกัน เผยเหตุผลวันที่ตัดสินพามาเลี้ยง
ไวรัล หมาจรจัดข้างถนนในวันนั้น สู่หัวหน้าแก๊งเจ้าถิ่นในวันนี้ เจ้าของเล่าเหตุผลวันที่ตัดสินใจอุ้มกลับมาเลี้ยงที่บ้าน

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ jakktung โพสต์คลิปการเปลี่ยนแปลงของหมาจรจัดข้างถนนตัวหนึ่ง ที่ทุกวันนี้มีบ้านอยู่ กลายเป็นเจ้าของถิ่น ยืนห้าวอยู่บนมอเตอร์ไซค์ พร้อมระบุแคปชั่นว่า "จากหมาจรจัดข้างถนน เกือบถูกสิบล้อชน สู่หมาอาเสี่ยเจ้าของถิ่น" จนมีชาวเน็ตมาคอมเมนต์แสดงความชื่นชมจำนวนมาก


ล่าสุดวันที่ 31 ก.ค. 67 คุณเก่ง เจ้าของโพสต์ เปิดเผยกับ 'ข่าวสดออนไลน์' ว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ตนเลิกงานและกำลังเดินทางกลับบ้าน โดยขับรถผ่านเส้นทางถนนขอนแก่นจะกลับไปยัง จ.อุดรธานี เห็นหมาจรจัดตัวนี้เดินอยู่ข้างถนนตัวเดียว ซึ่งถนนมีแต่รถสิบล้อวิ่งผ่าน ด้วยความเป็นห่วงกลัวจะโดนรถเฉี่ยวชน ตนเลยจอดแวะข้างทาง และลองเรียกดูว่าจะเดินมาหรือเปล่า Admauto99

ปรากฏว่าเรียกแล้วน้องก็วิ่งเข้ามาหา เข้ามาเล่นด้วยเหมือนหิวข้าว ตนเลยเอาของกินในรถให้ เมื่อมองดูรอบๆแล้ว แถวนั้นไม่มีสถานที่พักอาศัยหรือบ้านคนอยู่เลย มีแต่ป่า เลยตัดสินใจอุ้มหมาขึ้นรถกลับบ้าน เอามาเลี้ยงที่บ้าน เลยตั้งชื่อให้ว่า "ลีโอ"

ที่บ้านของตนนั้นเลี้ยงหมาอยู่แล้วหลายตัว ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์เล็ก ลีโอเป็น 1 ใน 4 ตัวที่เป็นหมาจรจัดที่ตนรับมาเลี้ยง ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นพันธุ์อะไร แต่พอโตมาก็เริ่มมีความเหมือนบางแก้ว ยิ่งโตยิ่งตัวใหญ่กว่าหมาตัวอื่นในบ้าน เลยเรียกกันว่า "อาเสี่ยโอ" น้องมีพฤติกรรมค่อนข้างซน ชอบปีนขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ แถมยังตัวใหญ่กว่าเพื่อน เลยกลายเป็นเหมือนหัวหน้าแก๊งหมา

ตนรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือหมาจรจัด การช่วยเหลือก็เหมือนเป็นการส่งต่อการดำรงชีวิตอีก 1 ชีวิตสัตว์ คิดว่ามันไม่ได้เป็นภาระอะไรมาก ตนเลี้ยงได้อยู่แล้ว เพราะที่บ้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เลี้ยงหมาอยู่แล้ว ข้าวหมาเขาก็กินด้วยกันหมด ไม่ได้ดื้อซนอะไรมาก พอเริ่มโตขึ้นก็เริ่มนิ่ง


ตนเจอคลิปเก่าในโทรศัพท์ จึงมาโพสต์ลงติ๊กต็อกไปเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่าน พอตื่นขึ้นมาอีกวันคลิปก็กลายเป็นไวรัลไปแล้ว ต้องขอบคุณที่ทุกคนที่ให้ความสนใจ การเก็บหมาจรจัดเอามาเลี้ยง จนมีหลายคนก็มาคอมเมนต์ชมน้องลีโอว่า โตมาหล่อเลย

ทั้งนี้ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การรับเลี้ยงหมาจรจัดนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน แล้วแต่กำลังเงิน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย หากบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ก็อาจมีผลเรื่องของเสียงดัง ในกรณีที่บ้านอยู่แยกเป็นบ้านเดี่ยวอาจจะเหมาะสมกว่า บางคนเขาอาจจะช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง ตนนั้นสามารถที่จะพอที่จะรับช่วยเหลือตรงนี้ได้ ก็เลยคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา ช่วยได้ก็ช่วย ถือว่าช่วยกัน

 ADMAUTO99 จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออยู่ ๆ เรากลับได้เห็นภาพที่พักของเราไปปรากฏในจุดที่คาดไม่ถึง ดังเช่นชายคนหนึ่งถึงกับสยองแรงเมื่อบังเอิญพบว่า อพาร์ตเมนต์ที่ตัวเองเช่าอยู่นั้น ดูเหมือนกับสภาพที่เกิดเหตุฆาตกรรมเมื่อ 10 ปีก่อนแทบทุกประการ ซึ่งยิ่งเปิดดีเทลให้ชาวเน็ตเห็นกันชัด ๆ ก็ยิ่งสร้างความสะพรึงไปทั่วโลกออนไลน์ รายงานจากเว็บไซต์มิร์เรอร์มีเดีย เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เปิดเผยว่า ไม่นานมานี้มีผู้ใช้โซเชียลที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คดีฆาตกรรม ออกมาคลิปวิเคราะห์เหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2557 โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้รับการเปิดเผย เมื่อหญิงเจ้าของที่ในเมืองจี๋หลิน ประเทศจีน ไม่สามารถติดต่อคนเช่าบ้ ADMAUTO99 านของเธอได้ นำไปสู่การเจอศพในห้องเช่า ภาพจากที่เกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้ระหว่างการสอบสวน แสดงให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ลวดลายของตู้เย็น ทำเลการจัดวางข้าวของในห้องนั่งเล่น ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ แถมหมอนลายเดียวกับที่เคยใช้ปิดศพไว้ ก็ยังปรากฏให้เห็นบนโซฟาในบ้านหลังเกิดเหตุเช่นกัน หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ ก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากขึ้น เมื่อมีชาวเน็ตรายหนึ่งเข้ามาทิ้งข้อความ เผยว่าตนเองคือผู้เช่าคนปัจจุบันของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ต่อมาชาวเน็ตรายนี้ยังได้ถ่ายคลิปสภาพปัจจุบันของห้องเช่าดังกล่าวมาโพสต์ให้ได้ดูกัน เผยให้เห็นว่าการตกแต่งห้องนั้นยังเหมือนกับคลิปที่ได้จากตำรวจมาก ๆ แม้แต่ลายตู้เย็นยังเหมือนกัน สภาพโซฟาในห้องนั่งเล่นก็ราวจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

พ่อพูดเป็นลางเหมือนสั่งเสีย ไม่ทำกินก็อดตาย ออกวางลอบดักปูขาย รุ่งเช้าพบเป็นศพจมน้ำ

พ่อพูดเป็นลางเหมือนสั่งเสีย ไม่ทำกินก็อดตาย ออกวางลอบดักปูขาย รุ่งเช้าพบเป็นศพจมน้ำ ติดทุ่นลอยเลี้ยงหอยชาวบ้าน คาดโรคประจำตัวกำเริบ วูบพลัดตกเรือ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 30 ก.ค.2567 ร.ต.อ.เอกลักษณ์ วงสา รอง สว.สส.(สอบสวน) สภ.ขลุง จ.จันทบุรี พร้อมด้วยกู้ชีพขลุงมูลนิธิ ร่วมกับชาวประมงพื้นบ้าน นำเรือท้องแบนออกตรวจสอบ ภายในคลองป่าชายเลน ลุ่มน้ำเวฬุ พื้นที่หมู่ 10 ต.เกวียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี หลังรับแจ้ง พบคนจมน้ำเสียชีวิต ติดทุ่นลอยเลี้ยงหอยของชาวบ้าน

การเดินทางต้องขับเรือเข้าไปถึงจุดที่พบศพใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาที ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นปากแม่น้ำลุ่มน้ำเวฬุ ติดกับป่าชายเลน ที่ชาวบ้านทำฟาร์มเลี้ยงหอย โดยระดับน้ำลดลงถึงพื้นทราย พบร่างผู้เสียชีวิตเพศชาย 1 ราย สภาพนอนหงาย มือยังจับเชือกที่โยงติดกับลำเรือ

ต่อมาร้อยเวรเจ้าของคดี ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำชาวบ้านที่มาพบศพ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสาน กู้ชีพนำร่างกลับขึ้นฝั่งส่งโรงพยาบาลขลุง เพื่อนชันสูตร ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด Admauto99

จากการสอบสวนของร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายพร (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี โดยทาง น.ส.พัชราพร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ น.ส.มารตี กับ น.ส.จันทิมา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ลูกสาวฝาแฝด ให้การว่า พ่อมีโรคประจำตัว เป็นเบาหวานความดัน เคยมีอาการกำเริบเผลอวูบขณะขับเรือมาแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมา อาการก็กำเริบอีกแต่ช่วยเหลือได้ทัน เนื่องจากมีเพื่อนบ้านนำเรือออกไปหลายลำ


ล่าสุดช่วงเย็นวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา พ่อออกเรือไปวางลอบดักปูอีก ทั้งที่อาการไม่ค่อยดี เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ 5 วัน และเคยบ่นเหมือนสั่งเสียว่าไม่ค่อยมีเงินใช้ ต้องออกหาปูเพื่อเอาไปขาย ถ้าไม่ทำก็อดตาย จากนั้นได้ออกเรือไป

กระทั่งตี 2 ยังไม่กลับบ้าน ทำให้ลูกๆพากันเป็นห่วง เนื่องจากพ่อออกไปลำเดียว โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณติดต่อไม่ได้ จึงปรึกษาพี่น้องตกลงกันว่า เมื่อสว่างจะพากันออกไปดู จนรุ่งเช้าให้สามีและเพื่อนชาวประมงพื้นบ้านช่วยออกตามหา จนมาพบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

 ADMAUTO99 วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เว็บไซต์เดลี่สตาร์ รายงานเรื่องราวของ บอนนี่ บลู ดาว OnlyFans วัย 25 ปี ซึ่งเป็นชาวอังกฤษที่ใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเคยสร้างความฮือฮากับโปรเจกต์แซ่บ มีเซ็กส์กับหนุ่มนักศึกษา 122 คน ในเวลา 21 วัน แต่ล่าสุดเธอกลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ใหม่ที่จะทำให้ผู้หญิงจำนวนมากไม่ปลื้ม หลังประกาศเชิญชวนชายที่แต่งงานแล้วมาใช้เวลาสุดหรรษากับเธอแบบฟรี ๆ โดยมีแค่เงื่อนไขเดียวคือต้องยอมให้เธอบันทึกภาพกิจกรรมระหว่างนั้น โดยบอนนี่อ้างว่ากิจกรรมนี้มีขึ้นก็เพื่อช่วยให้ชายที่แต่งงานแล้วเหล่านี้ได้คลายความเครียดที่ได้รับจากภรรยาของตัวเอง ซึ่งก็มีผู้ชายจำนวนม ADMAUTO99 ากที่ให้ความสนใจ ขอมาร่วมกิจกรรมแซ่บกับเธออย่างล้นหลาม ทั้งเหล่าชายที่แต่งงานแล้วซึ่งกำลังรู้สึกเบื่อ ตลอดจนบรรดานักท่องเที่ยวหนุ่มงบน้อย ที่บอนนี่ก็พร้อมจัดเต็มให้ไม่ต่างกัน แต่ยังไม่ทันที่กิจกรรมแซ่บ ๆ นี้จะเริ่ม บอนนี่ก็ต้องเจอเรื่องชวนหงุดหงิดเมื่อถูกทางโฮสเทลในเมืองโกลด์โคสต์ ของออสเตรเลีย ไล่เธอออกจากที่พักตั้งแต่ยังไม่เช็กอิน แม้เธอจะจ่ายเงินค่าห้องส่วนตัวไปแล้วถึง 3 ห้องก็ตาม เหตุเพราะทางพนักงานจดจำเธอได้จากคลิปก่อน ๆ จึงไม่ยินดีจะให้เธอใช้สถานที่มาถ่ายคลิปอื้อฉาวทำนองนี้ การถูกขับไล่ทำให้เธอถึงกับโวยด้วยความโมโหว่า "เหตุผลเดียวที่โฮสเทลนี้ถูกจองห้องเต็มก็เป็นเพราะฉันบอกว่าจะไปพักที่นั่น พวกเขาควรขอบคุณฉัน ไม่ใช่มาไล่ฉันแบบนี้" อย่างไรก็ตาม บอนนี่ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค เมื่อเธอจัดการหาจองที่พักแห่งอื่นใกล้ ๆ กันได้ และสามารถทำเงินได้อย่างมากมายในค่ำคืนนั้น จากคลิปเซ็กส์มาราธอนกับชายขี้เหงา 28 คน ประกอบด้วยชายที่แต่งงานแล้ว 16 คน กับนักท่องเที่ยวอีก 12 คน สาวผมบลอนด์รายนี้ เผยว่า งานมาราธอนของเธอในคืนนั้น น่าจะทำเงินให้เธอได้ถึง 78,000 ปอนด์ (ราว 3.6 ล้านบาท) เป็นอย่างน้อย โดยบรรดาสามีของชาวบ้านที่มารวมตัวกันในค่ำคืนนั้น ก็เพื่อคลายความเครียด และพักผ่อนจากภรรยาของพวกเขา ส่วนหนุ่ม ๆ นักท่องเที่ยวที่มารวมจอยกันนั้น ก็เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่มีเงินพอจะไปซื้อกินได้ เธอก็เลยเสนอตัวช่วยสร้างความพึงพอใจให้พวกเขาแบบฟรี ๆ เพราะตอนนี้เธอก็รวยแล้ว อย่างไรก็ตาม แผนการในปีนี้ของสาวแซ่บยังไม่หมดเพียงเท่านี้น เพราะเธอยังเตรียมที่จะบินไปทำคอนเทนต์อีกรอบที่อังกฤษในเดือนกันยายนนี้ โดยจะตระเวนไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หลายแห่ง เพื่อนอนกับหนุ่ม ๆ นักศึกษาใหม่ โดยไม่แคร์ว่ากิจกรรมของเธอจะตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากแค่ไหน และยังจะเปิดโอกาสให้ชายที่แต่งงานแล้วมาร่วมสนุกด้วยเช่นกัน ในขณะที่การกระทำของบอนนี้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้หญิงหลาย ๆ คน แต่เธออ้างว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาชีวิตคู่ของพวกเขาด้วยซ้ำ เธออ้างว่าบรรดาสามีของผู้หญิงเหล่านี้มาหาเธอ ก็เพราะเบื่อสภาพที่บ้าน และมองว่าสาเหตุที่ผู้ชายนอกใจ ก็เพราะภรรยาไม่รู้วิธีเอาใจพวกเขา ทำให้พวกเขาเบื่อเลยต้องมองหาความสนุกที่อื่น

สุดารัตน์ ชวนร่วมงาน 'Open House CBL รุ่น 2' ติวเข้ม SMEs ไทย บุกตลาดจีน
"สุดารัตน์" ชวนร่วมงาน Open House หลักสูตร CBL รุ่น 2 ติวเข้ม SMEs ไทย นักธุรกิจรุ่นใหม่ บุกตลาดจีน แย้ม ลงมือทำจริง ขายจริง โดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2567 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะประธานหลักสูตร (CBL) เชิญร่วมงาน Open House China Business Leader (CBL) รุ่นที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 3 ส.ค. เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์แสดงสินค้า Huzhou ชั้น 4 อาคาร SC Place รัชดา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า CBLรุ่นที่ 2 นั้น มาตามคำเรียกร้อง จากการสมัครเข้ามาแบบล้นทะลัก หลังจากผู้เรียน รุ่นที่ 1 ได้สะท้อนถึงผลสำเร็จจากการเรียนที่รุ่น 1 ได้รับอย่างเต็มที่

โดยปรัชญาของหลักสูตร CBLไม่ใช่แค่มาฟังเล็กเชอร์ แต่เป้าหมายของเราคือนำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และ SMEs เข้าไปตีตลาดจีนให้สำเร็จได้จริง

ซึ่งในรุ่นที่ 2 นี้ จะเพิ่มความเข้มข้น โดยเฉพาะเนื้อหา ความรู้ในการเจาะตลาดจีนด้วยกลไกที่มีประสิทธิภาพ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ การลงมือทำจริง ขายจริง จากตัวจริงที่ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญการเจาะตลาดจีนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจะหมุนเวียนมาให้ความรู้ ประสบการณ์ อย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก ที่สำคัญคือการสร้างเครือข่ายที่พร้อมเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย เพื่อความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการไทย

โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ที่สำคัญของหลักสูตร คือ การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้มีโอกาสบุกไปทำตลาดจีนให้สำเร็จ ซึ่งตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญ เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย และถ้าเรารู้จริง การเจาะตลาดจีนไม่ใช่เรื่องยาก และมีลูกค้ารออยู่จำนวนมหาศาลกว่า 1,400 ล้านคน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักสูตรนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้สินค้าและบริการเป็นที่นิยมสำหรับคนจีนที่มาท่องเที่ยวในไทย และผู้ที่ต้องการส่งสินค้าไปขายยังประเทศจีนทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ทั้งนี้ หลักสูตรจะแบ่งเป็น 4 Modules ได้แก่ Module 1 รู้จริงรู้ลึกตลาดจีน Know Who & Know How

Module 2 รู้ช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้ประสบผลสำเร็จในต้นทุนที่ต่ำ จากผู้เชี่ยวชาญที่รู้จริงในการเจาะตลาดจีน

Module 3 รู้จริงเรื่องกฎหมาย ระเบียบ ใบอนุญาตต่างๆ ในการนำสินค้าเข้าจีนให้ประสบความสำเร็จ Admauto99

Module 4 ลงมือขายจริง ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้ได้ออเดอร์ปังๆ พร้อมได้คอนเนคชั่นและเครือข่าย จากนักธุรกิจจีน รวมทั้งการทำ Business Matching


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ผู้เรียนจะได้พบกับการเดินทางสุดพิเศษ ศึกษาดูงานเซี่ยงไฮ้ หางโจว พร้อมนำสินค้าเข้าร่วมงาน China International Import Expo 2024 (CIIE) งานแสดงสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อนำมาจำหน่ายในประเทศจีน ที่ใหญ่ที่สุด จัดแค่ปีละเพียง 1 ครั้ง ถ้าพลาดคลาสนี้ ต้องรอไปอีก 1 ปี

สำหรับการอบรมจะจัดทุกวันศุกร์ เริ่ม 27 ก.ย. – 4 ธ.ค. 2567 เวลา 13.30 – 22.00 น. ท่านที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/chinabusinessleader และ https://forms.gle/WMxwGkEXAsmu3k3b8 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ไลน์ : @chinabizleader โทร : 093-314-1686